Nisemono Fuufu no Kouchaten : ร้านน้ำชาของสามีภรรยากำมะลอ

~เพราะในโลกนี้มีความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ~

นิยายยาว 2 เล่มของ Kobe Haruma ซึ่งเป็นนักเขียนที่เราไม่เคยอ่านผลงานอื่นมาก่อนเลย

ไม่แน่ใจว่าจบหรือยังแต่ไม่มีข่าวว่าจะออกภาคต่อ และไม่เคยเห็นว่ามีแปลไทย
เนื้อเรื่องก็ไม่ได้โดดเด่นมากมายสักเท่าไหร่ แต่เราอ่านแล้วประทับใจเป็นการส่วนตัวจึงอยากเอามาแนะนำกัน หวังว่าจะมีสำนักพิมพ์ไหนสนใจนำไปแปลขายในไทย หรือใครอยากฝึกอ่านภาษาญี่ปุ่นเรื่องนี้ก็ภาษาอ่านง่ายเหมาะแก่การฝึกฝนค่ะ

อายาเมะ เด็กสาวที่เติบโตมาในครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว และมีแม่ที่คบๆ เลิกๆ กับผู้ชายที่มีจุดร่วมเหมือนกันคือไม่ได้เรื่องได้ราวเลยสักคน เธอจึงมุ่งมั่นว่าจะต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเองและออกจากบ้านไปอยู่คนเดียวให้ได้ เมื่อจบม.ปลายอายาเมะไม่ต่อมหาวิทยาลัยแต่ไปเรียนเป็นช่างเสริมสวยเพื่อจะได้เริ่มต้นทำงานเร็วที่สุด ก่อนเรียนจบเธอไปฝึกงานที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่ง อัตสึฮิสะเจ้าของร้านเกิดเห็นแววจึงชวนมาทำงานด้วย หลังทำไปได้ไม่นานก็มาชวนอายาเมะไปอยู่ด้วยกัน

อายาเมะที่อยากออกจากบ้านอยู่แล้วตกลงรับคำชวน ความสัมพันธ์ไม่ได้ดีนักเพราะอายาเมะฝึกฝนอย่างหนักจนดึกดื่นทุกวัน ส่วนอัตสึฮิสะก็เป็นผู้ชายที่พูดสวยๆ ว่ามีความเป็นผู้นำ หรือพูดตรงๆ ว่าบ้าอำนาจ

วันหนึ่งอายาเมะเหนื่อยจากการทำงานจึงไม่อยู่ร้านจนดึกเหมือนทุกวัน แต่เมื่อกลับถึงบ้านกลับเจออัตสึฮิสะอยู่กับลูกค้าสาวคนหนึ่ง พอแสดงท่าทีไม่พอใจกลับโดนหงุดหงิดใส่แทนว่า “ถ้าไม่พอใจก็ออกไป” อายาเมะจึงไม่รอช้าเก็บของใส่กระเป๋าออกจากบ้านมาโดนทันที

เธอลากกระเป๋าไปขึ้นรถไฟ นั่งไปเรื่อยๆ ถึงสถานีทาเทยามะ จังหวัดจิบะ หยิบโทรศัพท์มามองแผนที่แล้วตั้งใจจะเดินตามถนนสายดอกไม้ (ฟลาวเวอร์ไลน์) จากสถานีไปจนถึงสุดทางแหลมโบโซ แต่เดินไปได้หน่อยก็เกิดเหนื่อยล้าจึงนั่งลงพักที่ริมชายหาด อายาเมะหยิบมือถือขึ้นมาเห็นข้อความเข้ามามากมาย แต่ก็ตัดสินใจไม่เปิดอ่านแล้วโยนมือถือทิ้งลงทะเล

พอนั่งเหม่ออยู่ริมทะเลได้สักพักมีชายสวมแว่นขี่สกูตเตอร์ผ่านมาถามเธอว่า “จะฆ่าตัวตายเหรอ” เมื่อคุยไปคุยมาจึงได้ความว่าเป็นเจ้าของร้านน้ำชาริมทะเล อายาเมะเพิ่งรู้ตัวว่าหิวจัดจึงขอตามเขาไปที่ร้าน พอไปถึงร้านน้ำชาซึ่งดัดแปลงมาจากบ้านไม้โบราณจึงรู้ว่าร้านยังไม่เปิดแต่ชูจิ เจ้าของร้านปากเสียก็ยอมให้เธอเข้าไปและทำแซนด์วิชกับชงชาให้เธอ

ระหว่างนั่งกินอยู่นั้นเอง เกิดมีเสียงอึกทึกมาจากด้านใน ชูจิหายเข้าไปในบ้านพักใหญ่จนอายาเมะกังวลและเดินตามเข้าไปดู ภาพที่เธอเห็นคือเครื่องซักผ้าพ่นฟองกับเครื่องดูดฝุ่นชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ชูจิบ่นอุบอิบว่าไม่รู้ทำไมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเขาถึงไม่ได้เรื่องสักอย่าง อายาเมะมองไปรอบๆ ทั้งบ้านและร้านแล้วถามถึงวันเวลาเปิดร้าน เธอตกใจเมื่อชูจิบอกว่าอีก 5 วันหลังจากนี้ เพราะยังไม่มีอะไรที่ดูพร้อมเลยแม้แต่อย่างเดียว

อายาเมะไร้ที่ไป ประกอบกับเป็นห่วงชูจิกับร้านจึงอาสาซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ และช่วยเตรียมพร้อมเปิดร้านในอีก 5 วันถัดไป โดยขอแลกกับที่พักและอาหาร เวลา 5 วันที่ทั้งคู่ช่วยกันเตรียมเปิดร้านทำให้เพื่อนบ้านเข้าใจว่าอายาเมะเป็นภรรยาของชูจิ แต่ด้วยความยุ่งวุ่นวายทำให้ทั้งสองคนไม่ใส่ใจมัน

อายาเมะเกิดชอบชีวิตร่วมกับชูจิที่ร้านน้ำชา “นากิสะ” ส่วนชูจิแม้พูดจาไม่ค่อยรักษาน้ำใจแต่สุดท้ายก็เป็นคนเอ่ยปากชวนให้อายาเมะอยู่ต่อหลังเปิดร้าน โดยทั้งสองได้ทำข้อตกลงร่วมกัน 4 ข้อ
1. ห้ามไม่ให้คนนอกรู้ว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่สามี-ภรรยากัน
2. ห้ามเข้าห้องส่วนตัวของอีกฝ่าย
3. ห้ามตัดสินใจทำอะไรที่ส่งผลต่อร้านหรือส่วนกลางโดยพลการ
4. ทั้งสองฝ่ายสามารถยุติความสัมพันธ์นี้ได้ทุกเมื่อโดยไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอม

ทั้งหมดนี้คืออินโทร ส่วนเนื้อสองเล่มจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกค้าที่ร้าน เพื่อนบ้าน ครอบครัวและเพื่อนฝูงของทั้งคู่

เนื้อเรื่องจัดว่าธรรมดาไม่ได้มีอะไรโดดเด่น แต่เราชอบสำนวนคนเขียนที่เขียนอ่านลื่นและไม่ยืดเยื้อเกินไป และชอบความสัมพันธ์ของทั้งสองคนที่ตอนท้ายที่สุดต่างพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าเป็น “ครอบครัว” โดยที่ยังคงรักษากฎที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก

ทั้งสองคนทะเลาะกันเป็นประจำเพราะไม่มีฝ่ายไหนของคอย “ลงให้” อีกฝ่าย แต่ต่างพูดความคิดของตัวเองจนกว่าจะได้ข้อสรุปร่วมกัน

ตอนอายาเมะประสบอุบัติเหตุชูจิทิ้งทุกอย่างไปโรงพยาบาลทันทีที่รู้ข่าว

ตอนชูจิล้มป่วยอายาเมะก็พาไปโรงพบาบาลทันทีและช่วยดูแลจนหาย

คนสองคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ แบ่งงานกันทำตามความถนัดได้ เป็นห่วงเป็นใยกันได้โดยเคารพซึ่งกันและกัน และไม่ล่วงล้ำพื้นที่ส่วนตัวของอีกฝ่าย

มันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกแต่ก็อบอุ่นหัวใจจนไม่แปลกใจที่เพื่อนบ้านและลูกค้าของร้านมองพวกเขาเป็นสามีภรรยาที่รักกันดี

ชูจิบอกว่า “Tea Room” หมายถึงห้องพักที่ช่วยความเหนื่อยล้าจากการงาน

ชูจิหนีจากชีวิตที่โดนครอบครัววางแผนไว้ทุกกระเบียดนิ้ว และตัวเองที่ไม่มีความคิดความตั้งใจอะไรเป็นของตัวเองเลยมาแบบไร้จุดหมายแล้วหยุดที่ทาเทยามะ หลังจากนั้นจึงมองหาทำเลเพื่อหนีจากบ้านมาเปิดร้านน้ำชาของตัวเอง

ส่วนอายาเมะหนีจากชีวิตที่โดนแฟนนอกใจและตัวเธอที่เคยเป็นฝ่ายยอมให้อีกฝ่ายตลอดมาที่ทาเทยามะและได้เจอกับชูจิกับร้านนากิสะ

ร้านนากิสะจึงเป็น “Tea Room” สำหรับทั้งคู่ และทั้งคู่ก็หวังจะให้ร้านเป็นที่พักของผู้ที่แวะเวียนมาหา

ในเล่มแรกความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงดูเป็นสิ่งชั่วคราว เหมือนมาพักเพียงชั่วคราวเพื่อจะกลับไปดำเนินชีวิตจริงต่อ จนกระทั่งท้ายเล่มแรกต่อเล่มสอง ที่มีการลงลึกถึงสาเหตุที่ทั้งคู่หนีมา และการตัดสินใจเลือก “นากิสะ” ในปัจจุบันมากกว่ากลับไปเดินตามเส้นทางในอดีตของตัวเอง

อ่านจนจบเล่มสอง อายาเมะรู้ตัวว่าชอบชูจิแต่ก็ไม่ได้พูดออกไปเพราะยังพอใจกับความสัมพันธ์ปัจจุบัน ส่วนชูจิเหมือนยังไม่รู้ว่าความรู้สึกของตัวเองคืออะไรแต่เขาก็บอกครอบครัวตัวเองว่าอายาเมะเป็นภรรยาที่เขาเลือกเอง และเอ่ยปากขอให้อายาเมะอยู่ที่นากิสะต่อ ทั้งยังเสนอให้ลบกฎข้อที่ 4 ออกเพราะกลัวอายาเมะจะหายไปเฉยๆ อีกด้วย

สองเล่มนี้เรื่องทั้งหมดเล่าจากมุมมองของอายาเมะ อยากจะให้ออกภาคต่ออีกสักเล่มแล้วเล่าเรื่องผ่านมุมมองของชูจิบ้างจังเลย…ทุกคนที่ผ่านมาอ่านบล็อกเราแล้วเกิดสนใจช่วยกันซื้อมาอ่านทีนะคะ เผื่อยอดขายขึ้นสักหน่อยสำนักพิมพ์จะใจดีให้เขียนภาคต่อได้

เราประทับใจความสัมพันธ์ไม่มีชื่อนี้ของอายาเมะกับชูจิมากๆ อ่านแล้วแอบฝันนิดๆ ว่าอยากจะมีสถานที่ที่เป็น Tea Room แบบถาวรของตัวเองบ้างจัง ^^